วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ตามรอยเสด็จประพาสเมืองตราด

จังหวัดตราดเคยอยู่ใต้การปกครองของประเทศฝรั่งเศส เป็นเวลา 2 ปีกว่า เหตุใด พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือรัชกาลที่ 5 ทรงยอมยกเมือง พระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ที่มีเนื้อที่ประมาณ 50,000 ตร.กม.(ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)ให้กับฝรั่งเศส เพื่อแลกกับเมืองตราดเล็กๆ ที่มีเนื้อที่ประมาณ 2,900 ตร.กม. จนได้กลับมาอยู่ใต้การปกครองของประเทศไทย ตามสัญญาระหว่างไทยกับฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2449 (จังหวัดตราดถือเอาวันนี้เป็นวันตราดรำลึก) จากนั้น วันที่ 6 กรกฎาคม 2450 มีพิธีส่งมอบเมืองตราดให้กับไทย ขณะนั้นรัชกาลที่ 5 เสด็จฯ ยุโรป ทรงมีราชโทรเลขกลับมาถึงชาวตราด "...การที่เจ้าทั้งหลายพลัดพรากจากเรานั้น เรามีความเสียดายเป็นอันมาก แต่บัดนี้มีความยินดีนัก ที่เจ้าทั้งหลายได้กลับคืนมา ในพระราชอาณาจักรของเรา ซึ่งเราจะเป็นธุระจัดการทะนุบำรุง ให้เจ้าทั้งหลายได้รับความสุขสำราญ ต่อไปภายหน้า เราจะได้มาเยือนเมืองตราด เพื่อเยี่ยมราษฎรชาวตราด ซึ่งเป็นที่ชอบพอและได้เคยพบปะกันมาแต่่ก่อนๆ แล้วนั้นด้วย..." พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จเยือนเมืองตราด 12 ครั้ง ดังนี้
  1. พ.ศ.2416 เดือนพ.ย. ธ.ค. เสด็จฯ น้ำตกธารมะยม เกาะช้าง และเกาะกระดาด
  2. พ.ศ.2419 เดือนม.ค. เสด็จฯ เกาะช้าง เกาะกระดาด
  3. พ.ศ.2423 เดือนก.พ. เสด็จฯ น้ำตกธารมะยม เกาะช้าง และเกาะกระดาด
  4. พ.ศ.2424 เดือนก.พ. เสด็จฯ เกาะกง เกาะกระดาด เกาะช้าง อ่าวสลักเพชร เสด็จตัวเมืองตราด ตามเส้นทางคลองบางพระ
  5. พ.ศ.2425 เดือนธ.ค. เสด็จฯ เกาะช้าง คลองพร้าว อ่าวสลักเพชร เกาะหมาก เกาะกระดาด
  6. พ.ศ.2426 เดือนธ.ค. เสด็จฯ น้ำตกธารมะยม บ้านหลวงสลักเพชร เกาะหมาก เกาะกระดาด
  7. พ.ศ.2427 เดือนก.พ. เสด็จฯ เกาะช้าง น้ำตกธารมะยม แหลมงอบ
  8. พ.ศ.2430 เดือนต.ค. เสด็จฯ เกาะกระดาด เกาะกูด เกาะช้าง น้ำตกธารมะยม ถวายพระกฐิน ที่วัดบุรินทรประดิษฐ์
  9. พ.ศ.2432 เดือนก.พ. เสด็จฯ เกาะช้าง เกาะกระดาด น้ำตกธารมะยม
  10. พ.ศ.2443 เดือนมี.ค. เสด็จฯ น้ำตกธารมะยม เกาะช้าง เกาะกระดาด และแหลมงอบ
  11. พ.ศ.2444 1 มีนาคม เสด็จฯ เกาะช้าง เกาะกูด เมืองตราด
  12. พ.ศ.2450 13 พฤศจิกายน เสด็จฯ กลับจากยุโรป เสด็จฯ มาที่เมืองตราดก่อนกลับคืนสู่พระนคร

ครั้งที่ 12 ครั้งสุดท้าย ทรงมีพระราชดำรัส "ซึ่งเจ้าทั้งหลายคิดเห็นว่าเราเหมือนบิดาที่พลัดพรากจากบุตร จึงรีบมาหานั้นเป็นความคิดอันถูกต้องแท้ ขอให้เชื่ออยู่ในใจเสมอไปในเบื้องหน้า ดังเช่นที่คิดเห็นในครั้งนี้ว่า เราคงจะเป็นเหมือนบิดาของเจ้าเสมอตลอดไป ย่อมยินดีด้วยในเวลามีความสุข และจะช่วยปลดเปลื้องอันตรายในเวลามีความทุกข์..."
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชสมภพเมื่อ 20 กันยายน พ.ศ.2396 ครองราชย์เมื่อ 1 ตุลาคม 2411 เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2453 (่วันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี จึงกลายมาเป็นวันปิยะมหาราช) ตลอดระยะเวลาการครองราชย์ พระองค์เสด็จฯ เยือนเมืองตราด 12 ครั้ง ระยะเวลาห่างจากการเสด็จฯครั้งก่อน บางครั้งก็ไม่ถึงปี ครั้งสุดท้ายก่อนสวรรคต 3 ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงแสดงให้ชาวตราดเห็นว่า ท่านทรงห่วงใยและมีความผูกพันต่อเมืองตราด และชาวตราด อนุเสาวรีย์ของท่านได้ประดิษฐาน อยู่หน้าศาลากลางจังหวัดตราด จะมีผู้คนมาสักการะบูชาอย่างต่อเนื่อง ชาวตราดให้ความเคารพนับถือมาก และเมื่อเอ่ยถึงท่านมักจะกล่าวว่าเสด็จพ่อร.5

เป็นพระบรมสาทิสลักษณ์ทรงเครื่องต้นที่พระราชทานให้เมืองตราด เมื่อพ.ศ.2427
ปัจจุับันประดิษฐานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วัดบุปผาราม


รูปอนุเสาวรีย์รัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดตราด
จะเห็นว่ามีธงช้างประดับอยู่หน้าศาลากลาง เพื่อรำลึกถึงการได้กลับมาเป็นคนไทยอีกครั้ง

ข้อมูลเพิ่มเติม :เอกสารตามรอยเสด็จฯ ณ เมืองตราดของอพท., วิกิพีเดีย

วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553

ธงช้าง



เมื่อท่านข้ามแม่น้ำเวฬุ (แม่น้ำที่กั้นจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด) เข้ามาในจังหวัดตราด สิ่งที่ท่านจะได้พบเห็นสิ่งหนึ่งตามบริเวณข้างทางหรือตามเกาะกลางถนนสุึขุมวิท ก็คือธงสีแดง แล้วมีรูปช้างสีขาวอยู่ตรงกลาง บางท่านอาจจะคิดไปว่าเป็นธงประจำจังหวัดตราด เพราะจังหวัดตราดมีเกาะช้าง ซึ่งท่านก็คิดเกือบถูก ธงประจำจังหวัดตราดจริงๆ แล้ว เป็นธงมีแถบพื้นสีน้ำเงินและสีแดง มีตราประจำจังหวัดอยู่ตรงกลาง ซึ่งตราประจำจังหวัดจะมีรูปเกาะช้าง รูปเรือใบ รูปโป๊ะ ตามรูปด้านล่าง



ธงสีแดงมีรูปช้างสีช้างสีขาวอยู่ตรงกลาง หรือเรียกว่า ธงช้าง เป็นธงชาติไทยสมัยรัชกาลที่ 5 ในตอนต้นที่บอกว่าเกือบถูก ก็เพราะธงช้างถูกนำมาใช้ปประดับตามสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดตราดอยู่หลายแห่ง พูดได้ว่าถูกนำมาใช้กันมากว่าธงประจำจังหวัดตราดเสียอีก
สาเหตุที่ธงชาติถูกนำมาประดับตามสถานที่ต่างๆ นั้น พอจะเล่าที่มาพอคร่าวๆ ในสมัย ร.5 เป็นช่วงที่ประเทศฝรั่งเศสทำการล่าอาณานิคม โดยสามารถยึดครองประเทศเวียดนาม ลาว กัมพูชา ได้แล้ว ก็เข้ามามีทีท่าจะยึดครองประเทศไทยตามไปด้วย โดยใช้วีธีการบีบบังคับประเทศไทยให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ และใช้กำลังทางทหาร จนในที่สุดฝ่ายไทยต้องส่งมอบจังหวัดตราด ให้เป็นของฝรั่งเศส
เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2447 เวลาเที่ยงวัน มีพิธีส่งมอบจังหวัดตราดให้เป็นของฝรั่งเศส ที่หน้าศาลากลางจังหวัดตราด ธงช้างถูกชักลงจากยอดเสา แล้วธงชาติของประเทศฝรั่งเศสถูกชักขึ้นแทนที่ จังหวัดตราดและชาวตราดซึ่งเป็นคนไทย จึงตกอยู่ใต้การปกครองของฝรั่งเศส
วันที่ 23 มี.ค.2449 จังหวัดตราดและชาวตราดได้กลับคืนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย โดยทางฝ่ายไทยต้องยอมเสียเมืองพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ ไปแลกมา เนื่องจากจังหวัดตราดเป็นเมืองทางยุทธศาสตร์ และประชากรส่วนใหญ่เป็นคนไทย
ด้วยเหตุนี้วันที่ 23 มีนาคม ของทุกปี ชาวตราดจึงตั้งให้เป็นวันตราดรำลึก เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของร.5 ที่ทำให้ชาวตราดได้กลับมาเป็นคนไทยอีกครั้ง และในระยะเวลาดังกล่าวก็จะมีการประดับธงช้างมากเป็นพิเศษ มีการจัดงานนิทรรศการ มหรสพ




วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553

ตราด (Trat)



ตราด เป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคตะวันออกสุึดของประเทศไทย เวลาพูดจังหวัดตราด บางคนฟังไม่ชัด ได้ยินเป็นจังหวัดตาก ต่างกันคนละฟากของประเทศ ตากอยู่ภาคตะวันตกติดกับประเทศพม่า แต่ตราดอยู่ภาคตะวันออกติดประเทศกัมพูชา จังหวัดตราดมี 7 อำเภอ ได้แก่
  1. อำเภอเมืองตราด
  2. อำเภอเขาสมิง
  3. อำเภอบ่อไร่
  4. อำเภอแหลมงอบ
  5. อำเภอคลองใหญ่
  6. อำเภอเกาะช้าง
  7. อำเภอเกาะกูด
จังหวัดตราด ณ 31 ธ.ค.2553 มีประชากรตามหลักฐานทะเบียนบ้านอยู่ 220,008 คน (ข้อมูลจากกรมการปกครอง) เป็นจังหวัดเล็กๆ แต่เป็นเล็กที่ไม่ธรรมดา จังหวัดตราดมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มากมาย ทั้งบนบกและทางน้ำ ทางชายทะเล มีเกาะอยู่หลายเกาะ เกาะที่ดังๆ เช่น เกาะช้าง เกาะกูด เกาะหวาย เกาะหมาก เกาะกระดาด เป็นต้น มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่หลากหลาย นอกจากนี้มีหลายๆ เหตุการณ์ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทย เกิดขึ้นที่จังหวัดแห่งนี้